Wednesday, March 16, 2016

"เผยโฉม" คู่กรณีเบนซ์ชนฟอร์ด แฉ 4 ปีก่อนสวมทะเบียนบีเอ็ม ชนแล้วหนี ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น...!!!

"เผยโฉม" คู่กรณีเบนซ์ชนฟอร์ด แฉ 4 ปีก่อนสวมทะเบียนบีเอ็ม ชนแล้วหนี ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น...!!!

คู่กรณีเบนซ์ชนฟอร์ด แฉ 4 ปีก่อนสวมทะเบียนบีเอ็ม ชนแล้วหนี ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ รถเบนซ์ ซีแอลเอส สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพ ชนเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า สีเทาดำ ทะเบียน ฆย 6911 กรุงเทพ จนไฟลุกท่วมย่างสด มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายกฤษณะ หรือโต้ง ถาวร อายุ 32 ปี กับ น.ส.ธันฐภัทร์ หรือเบนซ์ ฮ้อแสงชัย ซึ่งทั้งคู่เป็นนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งปรากฏคลิปชัดเจนว่า รถเบนซ์นั้นขับมาด้วยความเร็วสูง และพุ่งชนรถฟอร์ดที่ขับเลนซ้ายช้าๆ อย่างรุนแรง โดยพบว่าในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถเบนซ์ที่ชนฟอร์ด ที่ รพ.สมิติเวช ทั้งนี้ ภายหลังจากมีการแพร่ภาพคลิปออกไปทางเพจต่างๆ พบว่า มีบุคคลมาแสดตนว่า เคยเป็นคู่กรณีของรถทะเบียนเดียวกันเมื่อ 4 ปี ก่อน ซึ่งขณะนั้นทะเบียนได้สวมอยู่กับรถบีเอ็ม ไม่ใช่รถเบนซ์อย่างปัจจุบัน



โดยบุคคลดังกล่าว ได้เปิดเผยกับ “ข่าวสด” ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน โดยขณะนั้น ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ส่งลูกไปโรงเรียน ระหว่างกำลังขับทางตรงผ่านหมู่บ้านปัญญา รถบีเอ็มทะเบียน ษง 3333 ได้เลี้ยวปาดและชนเข้าที่ล้อรถด้านหลัง ทำให้รถของตนล้มลงและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนั้นได้หันไปมองและเห็นทะเบียนรถอย่างชัดเจน ซึ่งผู้ขับรถคันดังกล่าวไม่ได้ลงมาดูเหตุการณ์และได้ขับรถออกจากที่เกิดเหตุไปทันที แต่พบว่ามีผู้ขับรถจักรยานยนต์ตามรถบีเอ็มคันดังกล่าวมา และได้ขับตามไปพร้อมทั้งเคาะกระจกบอกให้คนขับได้ทราบว่าเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของตน แต่ผู้ขับไม่สนใจและขับรถหนีไป โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พลเมืองดีได้ย้อนมาบอกทะเบียนให้ทราบอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีพลเมืองดีในที่เกิดเหตุ ทั้งรปภ. ชาวบ้าน ได้บอกว่า รู้จักบ้านของเจ้าของรถที่ขับรถชนตน จึงอาสาที่จะไปบอกที่บ้านดังกล่าวให้ ซึ่งเมื่อพลเมืองดีช่วยเดินทางไปบอกแล้ว ได้รับคำตอบจากคนในบ้านว่า จะรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ ให้ไปกับรถมูลนิธิ ที่ รพ.วิภาราม ได้เลย
“เมื่อผมไปทำแผลกับแฟนแล้วเรียบร้อย ก็มารอคู่กรณีที่บอกว่าจะให้คนมาเคลีย์ค่าใช้จ่ายแต่ 2 ชั่วโมงผ่านไปก็ไม่มีใครมา จึงโทรบอกให้ที่บ้านช่วยเอาเงินมาจ่ายเพราะเงินไม่พอ จากนั้นก็ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูที่เกิดเหตุและนำรถจักรยานยนต์มาไว้ที่โรงพักให้ หลังจากแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เมื่อกลับมาบ้านก็พบว่า มีตำรวจติดต่อกลับมาว่า คู่กรณีได้ส่งตัวแทนมาเจรจาค่าเสียหายและให้กลับมาที่โรงพัก

แต่เนื่องจากเจ็บแผลจึงขอเลื่อนและนัดอีกครั้ง เมื่อ 3-4 วันผ่านไป ก็กลับไปเอารถและขอนัดเจอคู่กรณี แต่ได้คุยกับตัวแทนผ่านโทรศัพท์เท่านั้น โดยทางฝ่ายคู่กรณีอ้างว่าติดธุระ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณียอมรับว่าได้ชนจริง ได้เรียกค่าเสียหายไปคนละ 2 หมื่นบาท เป็นค่ายาและค่าที่ไม่สามารถไปขายของได้ถึง 10 วัน ซึ่งตัวแทนได้รับปากว่าจะนำเรื่องไปบอกประธานให้ แต่จากวันนั้นก็หายเงียบไป และได้ติดต่อผ่านร้อยเวรอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีคำตอบ จนร้อยเวรได้ย้ายไปประจำที่อื่นก็ไม่สามารถติดตามเรื่องนี้ได้อีก เมื่อเห็นเรื่องดังกล่าวที่แชร์ในโซเชี่ยลจึงได้นำเรื่องของตนไปแชร์ไว้”


วันเดียวกัน พระอาจารย์มหาหรรษา ธมมหาโส ผู้อำนวยหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า หลักสูตรปริญญาโท และเอกสาขาสันติศึกษา มหาจุฬาฯ และครอบครัวถาวร รวมถึงครอบครัวฮ้อแสงชัย รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเพลิงศพ “นายกฤษณะ ถาวร และนางสาวธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย” เป็นกรณีพิเศษ จึงขอเชิญญาติธรรมร่วมงานพระราชทานเพลิงตามวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

โดย นายกฤษณะ หรือโต้ง ถาวร อายุ 32 ปี จะทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดยาวบน อ.ขลุง จ.จันทรบุรี น.ส.ธันฐภัทร์ หรือเบนซ์ ฮ้อแสงชัย จะทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดทวีการะอนันต์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ที่มา : .khaosod
Share: